ที่มา
http://www.isranews.org/เรื่องเด่น/item/19737-ควันหลงศึกเลือก.html
ทั้งนี้ หลังผลโพลที่ออกมา เกิดความคาดเคลื่อนดังกล่าว ผู้รับผิดชอบสำนักโพลหลายแห่ง ได้ออกมาแสดงความเห็นไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
.....
ส่วน ดร.นพดล กรรณิกา"ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า “เราไม่ได้ทำเอ็กซิทโพล เราทำโพลก่อนการเลือกตั้งช่วงสัปดาห์สุดท้าย สำรวจ 5,000 ตัวอย่างจากคน 4 ล้านกว่าคน คิดเป็นร้อยละ 0.001 เป็นธรรมดาที่จะคลาดเคลื่อนได้ และในความเป็นจริงไม่ได้ทำใกล้วันเลือกตั้ง ทำในสัปดาห์สุดท้ายไม่ใช่วันเลือกตั้ง ยังมีกลุ่มคนที่อาจเปลี่ยนใจได้ซึ่งกลุ่มเปลี่ยนใจได้ในโค้งสุดท้ายสามารถทำ ให้พลิกได้ ถ้าทุกคนได้อ่านผลสำรวจอย่างต่อเนื่องจะเข้าใจการทำงานของนักทำโพลได้ ซึ่งความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้ทุกขั้นตอน
อ่านแล้วสลดใจ
1) ถ้ารู้ว่ากลุ่มตัวอย่างน้อย ทำไมไม่เพิ่มกลุ่มตัวอย่าง
2) ถ้ารู้ว่ากลุ่มตัวอย่างบางส่วนไม่เกี่ยวข้อง ทำไมไม่หาวิธีกรองเอาออกไป
3) ถ้าทำข้อ 1-2 ไม่ได้ แล้วสำรวจไปทำไม
4) ถ้าดันสำรวจไปแล้ว ทั้งๆ ที่ข้อ 1-2 ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ แล้วเอาออกมาเผยแพร่ทำไม
ขอโทษประชาชนบ้างก็ดี พวกเราไม่ใช่ควาย
อย่ามาอ้างเรื่อง 0.001% ที่อเมริกา ประชากรเป็นร้อยล้าน กลุ่มตัวอย่างเขาแค่หลักหมื่นเอง แต่เขาทำการสำรวจจริงๆ แล้วมีระบบวัดผล วิเคราะห์ค่าความคลาดเคลื่อน ก่อนนำออกมาเผยแพร่ อันนี้รู้ทั้งรู้ (หรือแกล้งไม่รู้) ว่าน่าจะมีความคลาดเคลื่อนมากๆ อย่างที่แก้ตัวมา แล้วนำออกมาเผยแพร่ ชี้นำประชาชนทำไม มีความรับผิดชอบต่อวิชาชีพตัวเองบ้างไหม?????
ปอลอ ผอ แสงชัยผู้ล่วงลับ เคยเปรียบเอาไว้ว่า การทำโพลล์ เหมือนการชิมซุปในหม้อ ไม่ต้องกินให้หมดหม้อ แค่ตักขึ้นมาช้อนนึงก็พอแล้ว แต่จะต้องคนให้เข้ากัน ก่อนจะตักขึ้นมา โพลล์เมืองนอก ก็มีคลาดเคลื่อนครับ แต่เขาจะเขียนไว้เลยว่า deviation +/- เท่าไร และไม่มีทางคลาดเคลื่อน 10-100% แบบนี้ ถึงเกิดจะมี deviation เยอะขนาดนั้น เขาก็จะไม่เผยแพร่ออกมาครับ ความเป็นมืออาชีพมันผิดกัน
อ่านคำแก้ตัวของ ผอ. โพลล์ แต่ละสำนักแล้วรับไม่ได้ครับ
http://www.isranews.org/เรื่องเด่น/item/19737-ควันหลงศึกเลือก.html
ทั้งนี้ หลังผลโพลที่ออกมา เกิดความคาดเคลื่อนดังกล่าว ผู้รับผิดชอบสำนักโพลหลายแห่ง ได้ออกมาแสดงความเห็นไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
.....
ส่วน ดร.นพดล กรรณิกา"ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า “เราไม่ได้ทำเอ็กซิทโพล เราทำโพลก่อนการเลือกตั้งช่วงสัปดาห์สุดท้าย สำรวจ 5,000 ตัวอย่างจากคน 4 ล้านกว่าคน คิดเป็นร้อยละ 0.001 เป็นธรรมดาที่จะคลาดเคลื่อนได้ และในความเป็นจริงไม่ได้ทำใกล้วันเลือกตั้ง ทำในสัปดาห์สุดท้ายไม่ใช่วันเลือกตั้ง ยังมีกลุ่มคนที่อาจเปลี่ยนใจได้ซึ่งกลุ่มเปลี่ยนใจได้ในโค้งสุดท้ายสามารถทำ ให้พลิกได้ ถ้าทุกคนได้อ่านผลสำรวจอย่างต่อเนื่องจะเข้าใจการทำงานของนักทำโพลได้ ซึ่งความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้ทุกขั้นตอน
อ่านแล้วสลดใจ
1) ถ้ารู้ว่ากลุ่มตัวอย่างน้อย ทำไมไม่เพิ่มกลุ่มตัวอย่าง
2) ถ้ารู้ว่ากลุ่มตัวอย่างบางส่วนไม่เกี่ยวข้อง ทำไมไม่หาวิธีกรองเอาออกไป
3) ถ้าทำข้อ 1-2 ไม่ได้ แล้วสำรวจไปทำไม
4) ถ้าดันสำรวจไปแล้ว ทั้งๆ ที่ข้อ 1-2 ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ แล้วเอาออกมาเผยแพร่ทำไม
ขอโทษประชาชนบ้างก็ดี พวกเราไม่ใช่ควาย
อย่ามาอ้างเรื่อง 0.001% ที่อเมริกา ประชากรเป็นร้อยล้าน กลุ่มตัวอย่างเขาแค่หลักหมื่นเอง แต่เขาทำการสำรวจจริงๆ แล้วมีระบบวัดผล วิเคราะห์ค่าความคลาดเคลื่อน ก่อนนำออกมาเผยแพร่ อันนี้รู้ทั้งรู้ (หรือแกล้งไม่รู้) ว่าน่าจะมีความคลาดเคลื่อนมากๆ อย่างที่แก้ตัวมา แล้วนำออกมาเผยแพร่ ชี้นำประชาชนทำไม มีความรับผิดชอบต่อวิชาชีพตัวเองบ้างไหม?????
ปอลอ ผอ แสงชัยผู้ล่วงลับ เคยเปรียบเอาไว้ว่า การทำโพลล์ เหมือนการชิมซุปในหม้อ ไม่ต้องกินให้หมดหม้อ แค่ตักขึ้นมาช้อนนึงก็พอแล้ว แต่จะต้องคนให้เข้ากัน ก่อนจะตักขึ้นมา โพลล์เมืองนอก ก็มีคลาดเคลื่อนครับ แต่เขาจะเขียนไว้เลยว่า deviation +/- เท่าไร และไม่มีทางคลาดเคลื่อน 10-100% แบบนี้ ถึงเกิดจะมี deviation เยอะขนาดนั้น เขาก็จะไม่เผยแพร่ออกมาครับ ความเป็นมืออาชีพมันผิดกัน